ชื่อ : นางสาวนภาวรรณ กระบวนงาม,นางสาวดวงฤทัย ใยอิ้ม
ชื่อเรื่อง
: การบำรุงรักษาเครื่องมือช่างในบ้าน
รายวิชา
: นวัตกรรมและไอซีที
ครูที่ปรึกษา : ว่าที่ ร.อ.บุญโต นาดี
ปีการศึกษา : 1/2557
บทคัดย่อ
โครงงานเรื่อง การบำรุงรักษาเครื่องมือช่างในบ้าน มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาวิธีการบำรุงรักษาเครื่องมือช่างในบ้านและเพื่อศึกษาเครื่องมือช่างในบ้านเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆที่ใช้ในห้องปฏิบัติการมีความหลากหลายทั้งในแง่ชนิด
ขนาดและวัตถุ-ประสงค์ของการใช้งานเครื่องมือประเภทเดียวกัน แต่เมื่อผู้ใช้มีวัตถุประสงค์ในการใช้งานที่แตกต่างกัน
ก็อาจเลือกใช้เครื่องที่มีคุณลักษณะไม่เท่ากันได้
รวมทั้งคุณภาพของการใช้งานที่อาจแตกต่างกันได้ แต่อย่างไรก็ตาม
เมื่อคำนึงถึงมาตรฐานเบื้องต้น ทั้งการจัดหา การเลือกใช้ การใช้งานให้ถูกต้อง
รวมทั้งการบำรุงรักษาเครื่องมือเหล่านี้ ให้มีความพร้อมและคงสภาพในการใช้งาน
ก็ไม่มีความแตกต่างกันมากนั้น ในบทนี้จะกล่าวถึงหลักการเบื้องต้นในการจัดหา
เลือกใช้ การบำรุงรักษา
รวมทั้งการจัดการแผนการบำรุงรักษาเพื่อเป็นแนวทางในการใช้งานต่อไป ซึ่งมีวิธีดำเนินโครงงาน
คิดหัวข้อโครงงานเพื่อนำเสนออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน
ศึกษาค้นคว้ารวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับโครงงาน
จัดทำโครงร่างโครงงานเสนออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ศึกษาข้อมูลเรื่องการบำรุงรักษาเครื่องมือช่างในบ้าน
จัดทำโครงงาน สรุปรายงานโครงงานและจัดทำรูปเล่ม
โครงงานเรื่อง
การบำรุงรักษาเครื่องมือช่างในบ้าน
ผู้จัดทำได้ดำเนินงานตามขั้นตอนการดำเนินงานที่ได้วางแผนไว้และผู้ที่สนใจได้ศึกษาหาความรู้และทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องการบำรุงรักษาเครื่องช่างในบ้านได้ดียิ่งขึ้นและสามารถนำไปใช้ได้ถูกต้องตามวิธีการบำรุงรักษาและถือว่าบรรลุตามวัตถุประสงค์
กิตติกรรมประกาศ
ขอขอบคุณอาจารย์
ที่ช่วยแนะนำให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการจัดทำโครงงาน
ขอขอบคุณผู้ปกครองที่ให้งบประมาณในการจัดทำโครงงานและสุดท้ายต้องขอขอบคุณเพื่อนๆที่ได้ให้ความร่วมมือในการทำโครงงานจนสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี
นางสาวนภาวรรณ กระบวนงาม
นางสาวดวงฤทัย ใยอิ้ม
สารบัญ
เรื่อง
บทคัดย่อ
กิตติกรรมประกาศ
บทที่1บทนำ
1.1 ที่มาและความสำคัญ
1.2
วัตถุประสงค์ของโครงงาน
1.3 ขอบเขตของโครงงาน
1.4 วิธีดำเนินการ
1.5 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 3 วิธีดำเนินโครงงาน
3.1 วัสดุอุปกรณ์
เครื่องมือ
3.2 ขั้นตอนการดำเนินโครงงาน
บทที่ 4 ผลการดำเนินโครงงาน
4.1 ผลการดำเนินงาน
4.2 การนำไปใช้
บทที่ 5 สรุป อภิปรายและข้อเสนอแนะ
5.1 สรุปผลการดำเนินงาน
5.2 ข้อเสนอแนะ
บทที่ 1
บทนำ
1.1 ที่มาและความสำคัญ
การดำรงชีวิตในปัจจุบันทุกครอบครัวจำเป็นจำเป็นต้องใช้สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ
เช่น หม้อหุงข้าวไฟฟ้า เตารีดไฟฟ้า พัดลมไฟฟ้า เป็นต้น
ซึ่งการใช้เครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆเหล่านี้ในระยะยาวนั้นจำเป็นต้องรู้จักวิธีการบำรุงรักษาหรือดัดแปลงเครื่องอำนวยความสะดวกเหล่านั้นเพื่อช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย
รวมทั้งเพื่อให้มีรูปแบบหรือวิธีการใช้ที่แปลกใหม่อีกด้วย
ดังนั้นงานช่างจึงเข้ามามีบทบาทในการซ่อมแซมและดัดแปลงเครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆ
ซึ่งงานช่าง หมายถึง การเปลี่ยนแปลงวัสดุต่างๆให้เกิดประโยชน์ นำความรู้หรือประสบการณ์ที่ได้จากการเรียนรู้ไปใช้ในการปฏิบัติจริง
จะทำให้เครื่องอำนวยความสะดวกหรือเครื่องใช้ในบ้าน
มีความคงทนและสามารถใช้งานได้นานและทำให้มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินมากยิ่งขึ้น
งานช่างในบ้านเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับของใช้ในบ้านเป็นส่วนใหญ่และการที่จะเลือกบำรุงรักษาและซ่อมแซมหรือดัดแปลง
ควรมีทักษะความรู้และวิธีปฏิบัติที่ถูกต้องเพื่อให้ของใช้ในบ้านไม่เสียหายหรือเกิดอุบัติเหตุในระหว่างปฏิบัติงาน
ดังนั้นควรมีการศึกษาหาความรู้อย่างชัดเจนและถูกต้องเพื่อนำไปปฏิบัติได้อย่างปลอดภัย
1.2 วัตถุประสงค์ของโครงงาน
1.2.1 เพื่อศึกษาวิธีการบำรุงรักษาเครื่องมือช่างในบ้าน
1.2.2 เพื่อศึกษาเครื่องมือช่างในบ้าน
1.3 ขอบเขตของโครงงาน
เครื่องมือช่างในบ้านและการบำรุงรักษาเครื่องมือช่างในบ้าน
1.4 วิธีการดำเนินงาน
1.4.1 คิดหัวข้อโครงงานเพื่อนำเสนออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน
1.4.2 ศึกษาค้นคว้ารวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับโครงงาน
1.4.3 จัดทำโครงร่างโครงงานเสนออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน
1.4.4 ศึกษาข้อมูลเรื่องการบำรุงรักษาเครื่องมือช่างในบ้าน
1.4.5 จัดทำโครงงาน
1.4.6 สรุปรายงานโครงงานและจัดทำรูปเล่ม
1.5 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1.5.1 ผู้สนใจมีความเข้าใจเกี่ยวกับการบำรุงรักษาเครื่องมือช่างในบ้าน
1.5.2 ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับการบำรุงรักษาเครื่องมือช่างในบ้าน
บทที่ 2
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
ความหมายและความสำคัญของงานช่าง
การดำรงชีวิตในปัจจุบันทุกครอบครัวจำเป็นต้องใช้เครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆ
เช่น หม้อหุงข้าวไฟฟ้า เตารีดไฟฟ้า พัดลมไฟฟ้า
ซึ่งการใช้เครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆ
เหล่านี้ให้ได้ในระยะยาวนั้นจำเป็นต้องรู้จักวิธีการบำรุงรักษาหรือดัดแปลงเครื่องอำนวยความสะดวกเหล่านั้น
เพื่อช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย
รวมทั้งเพื่อให้มีรูปแบบหรือวิธีการใช้ที่แปลกใหม่อีกด้วย
ดังนั้นงานช่างจึงเข้ามามีบทบาทในการซ่อมแซมและดัดแปลงเครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆ
ซึ่งงานช่าง หมายถึง การเปลี่ยนแปลงวัสดุต่างๆ ให้เกิดประโยชน์
นำความรู้หรือประสบการณ์ที่ได้จากการเรียนรู้ไปใช้ในการปฏิบัติได้จริง
จะทำให้เครื่องอำนวยความสะดวกหรือเครื่องใช้ในบ้านมีความคงทนสามารถใช้งานได้นานและทำให้มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินมากขึ้น
งานช่างสามรถจัดแบ่งเป็นสาขาต่างๆ
ตามลักษณะของงานประกอบด้วย งานไม้ งานไฟฟ้า งานโลหะ งานเครื่องยนต์ งานแบบ
ซึ่งงานในแต่ละสาขานั้นจำเป็นต้องใช้ทักษะและเครื่องมือเฉพาะด้านเท่านั้น
จึงจะทำให้งานที่ออกมานั้นมีความสวยงามถูกต้อง และปลอดภัย โดยงานไม้
ต้องอาศัยทักษะในการใช้เครื่องมือผ่านกระบวนการต่างๆ ซึ่งสามารถจำแนกออกเป็น
งานไม้ครุภัณฑ์ งานไม้แกะสลัก งานไม้ก่อสร้างและงานไม้แบบโครงสร้าง งานไฟฟ้า
เป็นการนำเอาพลังงานไฟฟ้ามาใช้ในลักษณะพลังงานแสงสว่าง พลังงานความร้อน
และพลังงานสากล
โดยนำทักษะและความรู้มาใช้ในการบำรุงรักษาและซ่อมแซมเครื่องใช้ไฟฟ้า
สามารถจำแนกออกเป็น งานไฟฟ้ากำลัง งานไฟฟ้าภายในบ้าน งานไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์
งานโลหะ ต้องอาศัยทักษะ ความอดทน ความละเอียดรอบคอบ ผลงานที่ได้จะมีคุณภาพ
เรียบร้อย สวยงาม สามารถจำแนกออกเป็น งานโลหะแผ่น เหล็กดัดปั้นรูปโลหะ
ผลิตภัณฑ์อะลูมิเนียม งานเคาะขึ้นรูปโลหะ งานช่างเชื่อมโลหะ งานช่างหล่อโลหะ
งานเครื่องยนต์ เป็นการบำรุงรักษาปรับสภาพเครื่องยนต์ให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
โดยจะต้องใช้เครื่องมือที่ถูกต้อง ละเอียดรอบคอบ สามารถจำแนกออกเป็น
การใช้และการควบคุมเครื่องยนต์ การบริการตรวจซ่อมปรับแต่งเครื่องยนต์
การบำรุงรักษาส่วนต่างๆของเครื่องยนต์ และงานออกแบบ เป็นงานที่ถ่ายทอดจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ให้คนอื่นรู้โดยปรากฏบนแผ่นกระดาษ
โดยอาศัยทักษะตามหลักวิชาการ สามารถ จำแนกเป็น แบบในงานสถาปัตยกรรม
และแบบในงานวิศวกรรม
งานช่างในบ้านเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับของใช้ในบ้านเป็นส่วนใหญ่
และการที่จะเลือกบำรุงรักษาซ่อมแซมหรือดัดแปลง ควรมีทักษะความรู้หรือวิธีปฏิบัติที่ถูกต้องเพื่อให้ของใช้ในบ้านไม่เสียหายหรือเกิดอุบัติเหตุในระหว่างการปฏิบัติ
ดังนั้นควรมีการศึกษาหาความรู้อย่างชัดเจนและถูกต้องเพื่อนำไปปฏิบัติได้อย่างปลอดภัย
หลักการของงานช่างพื้นฐาน
ประเทศไทยในปัจจุบัน
ได้มีการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจและเทคโนโลยีไปอย่างมาก
ซึ่งส่งผลต่อรูปแบการดำเนินชีวิตในทุกด้าน โดยเฉพาะทางด้านเทคโนโลยี
ได้มีการคิดค้นเครื่องมือ
วัสดุอุปกรณ์ที่อำนวยความสะดวกต่อการทำงานในชีวิตประจำวันของมนุษย์มากยิ่งขึ้น
ด้วยเหตุนี้การมีความรู้ทางด้านช่างจึงมีความสำคัญและจำเป็นต่อทุกคน เนื่องจากทำให้เราสามารถใช้เครื่องมือเครื่องใช้ได้อย่างถูกต้อง
มีประสิทธิภาพ ซ่อมแซมได้เมื่อเกิดปัญหา และบำรุงรักษาได้ถูกต้องเหมาะสม
ทำให้มีอายุการใช้งานได้ยาวนาน ซึ่งจะเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายภายในบ้านได้ดี
งานช่างพื้นฐานภายในบ้านนั้นจะเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันทั้งเกี่ยวกับการทำความสะอาดบ้าน
การทำสวน การติดตั้งไฟ เป็นต้น เราสามารถดูแลรักษา
ซ่อมแซมเครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆด้วยตนเองได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
ด้วยหลักการและวิธีการของงานช่างพื้นฐานภายในบ้านที่สามารถแบ่งออกเป็นกลุ่มใหญ่ๆได้ดังนี้
- การติดตั้ง/ประกอบ เป็นงานภายในที่มีความจำเป็นต้องทำเป็นครั้งคราว
เช่น การติดบานพับ หรือสายยูประตู การวางท่อน้ำ การก่ออิฐถือปูนและการเดินสายไฟ
เป็นต้น
- การบำรุงรักษา
เนื่องจากของใช้ภายในบ้านจะต้องมีการใช้งานเป็นประจำ
ถ้าได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดี จะยืดอายุการใช้งานไปได้อีกยาวนาน
ตัวอย่างการบำรุงรักษาอุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้าน เช่น เครื่องมือที่เป็นโลหะ
เมื่อใช้งานแล้วจะต้องทำความสะอาดและชโลมน้ำมัน เพื่อกันสนิมก่อนนำไปเก็บเข้าที่
เครื่องใช้ไฟฟ้าไม่ควรเปิดใช้ติดกันเป็นเวลานานๆ เมื่อไม่ได้ใช้
ควรปิดสวิทช์และถอดปลั๊กทุกครั้ง เป็นต้น
- การซ่อมแซมและดัดแปลง
การใช้งานอุปกรณ์เครื่องใช้เป็นเวลานานๆ จะทำให้เกิดสึกหรอหรือเสียหายขึ้นได้
หากพบว่าเกิดการชำรุดไม่มากนัก ก็ควรจะซ่อมแซมให้มีสภาพดี
คงทนและสามารถใช้งานได้ต่อไป เช่น การซ่อมแซมผนังปูนร้าว
การซ่อมแซมกระเบื้องปูพื้น การเปลี่ยนหลอดไฟหรือฟิวส์
และการซ่อมแซมมือจับที่ทำจากพลาสติก
แต่ถ้าอุปกรณ์ชิ้นนั้นไม่สามารถใช้งานได้แล้วเราอาจดัดแปลงไปใช้งานอื่นได้
เช่นสุขสันต์วันเกิดนะจ๊ะ กระทะไฟฟ้าที่ชำรุดแล้วอาจนำมาทำเป็นกระถางดอกไม้แบบแขวน
เป็นต้น
การผลิตเป็นงานเล็กๆน้อยๆที่เราสามารถทำได้โดยใช้วัสดุที่มีอยู่หรือที่หาได้ในท้องถิ่น
และถือเป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์อีกด้วย เช่น
การทำชั้นวางของโดยใช้เหล็กฉาก การทำโต๊ะหรือเก้าอี้แบบง่ายๆ
และการทำรั้วไม้รอบแปลงพืชผัก เป็นต้น
วัสดุอุปกรณ์งานช่างพื้นฐาน
วัสดุอุปกรณ์งานช่างในบ้าน คือ
วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในงานช่างพื้นฐานภายในบ้าน
วัสดุอุปกรณ์เหล่านี้จะอยู่ในรูปการใช้งานที่แตกต่างกัน
ฉะนั้นนักเรียนจึงควรเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ให้เหมาะสมสอดคล้องกับประเภทของงาน
ซึ่งจะทำให้เราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเต็มที่ วัสดุอุปกรณ์งานช่างในบ้าน เช่น
1. กาว
ใช้ทำหน้าที่เชื่อมประสานวัสดุสองชนิดให้ติดกันแน่น
มีทั้งแบบที่ได้จากธรรมชาติ เช่น จากไขสัตว์ ยางธรรมชาติ และแบบสังเคราะห์ เช่น
อีพ็อก
การเก็บรักษา เมื่อใช้เสร็จควรปิดฝาให้เรียบร้อย
และเก็บให้มิดชิด
2.กระดาษทราย
ใช้สำหรับตกแต่งหรือปรับผิววัสดุให้เรียบ
หรือลบคมในส่วนที่ต้องการการเก็บรักษา ควรเก็บไว้ในที่แห้ง ไม่อับชื้น
3. ปูนซีเมนซ์
เป็นวัสดุประสานได้มาจากการเผาหิน
บดให้ละเอียด เมื่อผสมกับน้ำจะจับตัวแข็ง ใช่ร่วมกับปอร์ตแลนด์ผสมทราย
การเก็บรักษา ควรเก็บไว้ที่แห้ง และกันความชื้นได้
4.ตะปู
เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ยึดงานไม้ให้ติดกัน
โดยการใช้ค้อนตอก ตะปูที่ใช้ในปัจจุบันมีหลายรูปแบบ
หลายขนาดตามความเหมาะสมกับการใช้งาน
การเก็บรักษา ควรเก็บในภาชนะที่มิดชิด
ไม่อับชื้นเพื่อป้องกันการเกิดสนิม
5.ซีเมนต์ขาว
เป็นปูนซีเมนต์ประเภทหนึ่ง
ชำสำหรับทำหินขัด และปูกระเบื้องห้องน้ำ
การเก็บรักษา เช่นเดียวกับปูนซีเมนต์อื่น
6.หลอดไฟฟ้า
อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ทำให้เกิดแสงสว่าง
ซึ่งจะบอกขนาดเป็นวัตต์(WATT)มีจำหน่ายในรูปของแรงเคลื่อนที่ไฟฟ้า
ที่ใช้ในบ้านเรือนทั่วไป คือ แรงเคลื่อนที่ไฟฟ้า 220 โวลต์ กำลังไฟฟ้า 60 วัตต์
หลอดไฟฟ้าที่ใช้กันทั่วไปจะมีลักษณะของหลอดที่มีไส้ลวดไฟฟ้าอยู่ภายใน
มีครอบแก้วยึดอยู่ ภายในบรรจุแก๊สเฉื่อยไว้ หลอดอีกชนิดหนึ่งคือ หลอดฟลูออเรสเซนซ์
จะให้แสงสว่างไม่เท่ากับหลอดไฟฟ้าปกติ ภายในบรรจุแก๊สอาร์กอน และไอปรอท
จะใช้งานร่วมกับบาลาสต์(Ballast) และสตาร์ตเตอร์(Starter)
การเก็บรักษา
เก็บในภาชนะที่มิดชิดป้องกันการกระแทกและไม่อับชื้น
7.สายไฟ
ใช้ทำหน้าที่นำกระแสไฟฟ้า ประกอบด้วย
เส้นลวดทำจากโลหะมีฉนวนหุ้ม ประเภทของโลหะที่ใช้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในการใช้งาน
8.สวิทช์
เป็นอุปกรณ์ควบคุมการเดินของกระแสไฟฟ้าที่จุดต่างๆของการใช้งาน
ซึ่งอาจมีได้หลายจุดตามความเหมาะสม ขนาดของสวิทช์จะบอกจำนวนกระแสไฟฟ้าที่รับได้
เพื่อให้สามารถเลือกใช้ได้ตามความต้องการ
เครื่องมือช่างในบ้าน
เครื่องมือช่างในบ้าน คือ
เครื่องมือที่มีความจำเป็นต้องใช้ในงานซ่อมแซมหรืองานช่างต่างๆภายในบ้าน
เครื่องมือแต่ละชิ้นจะถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับลักษณะของงานหนึ่งๆ ดังนั้น
การเลือกใช้เครื่องมือให้เหมาะสมถูกต้องและรู้จักบำรุงรักษาเครื่องมืออย่างถูกวิธีจะช่วยให้เราปฏิบัติงานได้ผลดียิ่งขึ้น
เครื่องมือช่างในบ้านประกอบด้วย
เครื่องมือ
วิธีการใช้งานและการเก็บรักษา
1.ตะไบ
ทำด้วยโลหะมีรูปร่างหลายแบบ เช่น
ตะไบกลม ตะไบสามเหลี่ยม ตะไบครึ่งวงกลม ตะไบสี่เหลี่ยม และตะไบแบน
ตะไบเป็นเครื่องมือเครื่องตัดหรือเฉือนชนิดหนึ่ง มีฟันขนาดเล็กๆจำนวนมาก
ฟันจะทำจากโลหะที่แข็งมาก จึงสามารถตัดหรือเฉือนวัสดุที่อ่อนกว่าได้
เศษโลหะหรือไม้ที่ได้จะมีขนาดเล็กมากหรือน้อยขึ้นกับฟันของตะไบ
นำไปใช้งานตกแต่งผิวโลหะให้เรียบ ลบส่วนที่คมหรือทำให้เป็นรูปร่างต่างๆ ตามต้องการ
ความยาวของตะไบจะมีขนาดประมาณ3-18นิ้วหลังการใช้งาน
ควรใช้แปรงลวดทำความสะอาดร่องฟันเพื่อกำจัดสิ่งสกปรกที่อุดตัน
ไม่ควรใช้วิธีการเคาะ และควรเก็บใส่กล่องหรือเก็บในที่สำหรับแขวนตะไบโดยเฉพาะ
2.สกัด
ทำด้วยโลหะมีรูปร่างหลายแบบตามลักษณะของหัวสกัด
สกัดเป็นเครื่องมือซ่อมแซมที่ใช้งานร่วมกับค้อน
โดยจะใช้สกัดในงานตัดเศษโลหะส่วนเกินบนผิวโลหะ ตัดนอตหรือสกัดเกลียวที่ถอดไม่ออก
ตัดรอยเชื่อมส่วนเกิน ตัดแผ่นโลหะ และเซาะร่อง สกัดทำมาจากเหล็กเนื้อดี
มีความแข็งและเหนียวมากว่าเหล็กทั่วไป มีขนาดยาว4-8นิ้ว
ลำตัวจะทำเป็นรูปหกเหลี่ยม ส่วนหัวจะเป็นรูปทรงกลมแบน
ส่วนด้านปลายซึ่งจะใช้เป็นคมสำหรับตัดโลหะจะมีหลายแบบ เช่น ปลายแบน ปลายแหลม
ปลายมน และปลายตัด ปลายแต่ละแบบต่างก็มีความเหมาะสมในการใช้งานแตกต่างกัน
หลังการใช้งาน ควรเก็บในภาชนะซึ่งสะอาดและแห้ง
3.สิ่ว
ทำด้วยโลหะ มีรูปร่างหลายแบบ เช่น
สิ่วปากบาง สิ่วปากหนา เป็นเครื่องมือในงานไม้ที่ใช้งานร่วมกับค้อน ใช้ขุดเซาะร่อง
ตกแต่งไม้ในการเข้าเดือย ติดบานพับ สายยู ลิ้นชักตู้ หรือโต๊ะ
การเก็บรักษา
หลังใช้เสร็จทำความสะอาดโดยเช็ดด้วยน้ำมันเพื่อป้องกันสนิม และเก็บในที่ปลอดภัย
อากาศไม่อับชื้น
4.เลื่อยไม้
เป็นเลื่อยสำหรับงานไม้โดยทั่วไป
ทำด้วยโลหะแผ่นบาง มีฟันเป็นซี่ๆ โดยฟันของซี่เลื่อยมีความแตกต่างกันตามความเหมาะสมกับการใช้งาน
การเก็บรักษา
หลังใช้เสร็จควรทำความสะอาดใบเลื่อยทุกครั้งและใช้ตะไบตกแต่งฟันเลื่อยให้คมเสมอ
ทาด้วยน้ำมันเครื่องและเก็บให้มิดชิด
5.เลื่อยโลหะ
เลื่อยมือเป็นเครื่องมือตัดหรือเฉือนโลหะอีกชิดหนึ่งที่มีการใช้อย่างแพร่หลาย
เลื่อยมือเหมาะสำหรับใช้งานตัดท่อ หรือแท่งเหล็กกลมที่มีขนาดเล็ก
และแผ่นโลหะที่หนาเกินกว่าจะใช้กรรไกรตัดได้ เลื่อยมือแบ่งได้เป็น 3 ส่วนคือ โครงเลื่อย จะทำหน้าที่ยึดใบเลื่อยทั้งชนิดปรับได้และปรับไม่ได้
ด้ามถือ จะต่อมาจากโครงเลื่อยและใบเลื่อย จะทำหน้าที่ตัดโลหะจึงต้องทำจากวัสดุชนิดพิเศษ
หลังการใช้งาน
ควรถอดใบเลื่อยออกจากโครงเลื่อยแล้วเก็บไว้พร้อมชโลมน้ำมัน
ส่วนโครงเลื่อยให้แขวนในที่จัดเตรียมไว้
6.ไขควง
ด้ามจับทำจากพลาสติก ไม้ หรือโลหะ บริเวณด้ามหรือแกนทำด้วยโลหะ
ไขควงแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ด้าม ใช้สำหรับจับทำจากไม้ โลหะหรือพลาสติก
ก้านหรือแกนกลาง ใช้สำหรับส่งแรงบิดไปยังส่วนปลาย
ทำจากโลหะมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมกลม ปากหรือปลาย
ใช้สอดหรือสวมเข้าไปยังร่องของหัวสกรูหรือสลักเกลียว ทำจากโลหะ ปากมี 2 แบบ คือ ปากสี่แฉก และปากแบน ไขควงเป็น เครื่องมือที่ใช้แรงบิดสำหรับขันหรือคลายสกรูและสลักเกลียวที่ยึดไม้หรือโลหะ
หลังการใช้งาน ต้องทำความสะอาดแล้วเก็บในที่แห้ง
7.ประแจ
ประแจแบ่งออกเป็น 3 ชนิด ประแจแป๊ป ประแจปากตาย และประแจพิเศษประเภทประแจบ็อกซ์หรือประแจแอล
ประแจเป็นเครื่งอมือที่ใช้แรงบิด ที่ใช้สำหรับ ยึด ขัน หรือคลายผังสกรู นอต
สลักเกลียว
หลังการใช้งาน ควรเก็บในกล่องใส่ประแจ หรือแขวนไว้กับแผงไม้
8.คีม
คีมเป็นเครื่องมือที่ใช้แรงบิดสำหรับจับ
ยึด ดัด และตัดสิ่งต่างๆ เช่น โลหะแผ่นบาง สายไฟ ท่อขนาดเล็ก และเส้นลวด เป็นต้น
ใช้มากในงานโลหะแผ่น งานซ่อมวิทยุหรืออิเล็กทรอนิกส์ และรถยนต์
คีมมีหลายชนิดแต่ที่สำคัญมีดังนี้ คีมปากแบนหรือคีมปากจิ้งจก คีมปากขยาย คีมล็อก คีมตัด
และคีมตัดปากทแยง เป็นต้น
หลังการใช้งาน ถ้าต้องการเก็บคีมไว้ใช้นานๆ
ควรหยอดน้ำมันที่จุดหมุนของคีม และควรมีการหยอดเป็นระยะ
และหลังจากเลิกใช้งานประจำวันควรเช็ดทำความสะอาด
แล้วเก็บไว้ในที่จัดเตรียมไว้หรือที่ปลอดภัย
9.ค้อน
ด้ามจับทำจากไม้ หรือเหล็ก และบริเวณส่วนหัวค้อนทำจากโลหะประเภทเหล็ก
โดยหน้าค้อนจะเรียบใช้สำหรับตอกตะปู
ส่วนหางจะมีลักษณะเป็นรูปตัววีใช้สำหรับดึงหรือถอนตะปู
ค้อนเป็นเครื่องมือที่ใช้แรงกระแทกสำหรับการตอกตะปูหรือถอนตะปู
ค้อนที่เหมาะแก่การใช้งานควรมีน้ำหนักประมาณ6-9กิโลกรัม
หลังการใช้งาน ควรทำความสะอาดด้ามค้อนและหัวค้อนให้สะอาด
ควรมรที่เก็บค้อนโดยเฉพาะ อาจจะใส่กล่อง ตู้ หรือแผงเครื่องมือ
10.กบไสไม้
เป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับปรับแต่งผิวหน้าไม้ให้เรียบหรือลบคมไม้
กบมี 2 ประเภทคือ กบล้างใช้สำหรับไสไม้ที่ผิวขรุขระ
กบผิวใช้ไสแต่งผิวให้เรียบละเอียดยิ่งขึ้น
หลังการใช้ เช็ดกบให้สะอาด ชโลมน้ำมันที่ใบกบเพื่อกันสนิม
11.ฉาก
ใช้เป็นเครื่องมือในการตรวจสอบระดับและใช้เป็นบรรทัดร่างเส้นบนชิ้นงานได้
12.ตลับเมตร
ใช้วัดระยะทาง
สายวัดภายในตลับทำด้วยโลหะ สามารถสปริงตัวได้ดีบอกค่าได้ทั้งนิ้วและเมตร
การซ่อมแซมบ้านของเรา
ปัญหาที่ทุกบ้านต้องประสบมีหลายปัญหา
เช่น หลังคารั่ว ฝนสาดเข้าตามร่องหน้าต่าง ห้องน้ำซึม ก๊อกรั่ว
กระเบื้องห้องน้ำหลุด เครื่องใช้ในบ้านชำรุด เป็นต้น
ดังนั้นหน่วยนี้จะกล่าวถึงปัญหาและแนวทางการซ่อมแซมหรือการแก้ปัญหาไว้ดังนี้
ปัญหา
แนวทางการแก้ปัญหาและการซ่อมแซม
1.หลังคารั่ว
สาเหตุส่วนใหญ่เนื่องมาจากกระเบื้องหลังคาแตกร้าว
มุงกระเบื้องผิดวิธีวัสดุที่มุงนั้นเก่าหรือหมดอายุแล้ว
การซ่อมจะต้องเปลี่ยนกระเบื้องใหม่
ส่วนหลังคาคอนกรีตที่แตกร้าวที่มองเห็นได้ชัดเจนก็ต้องใช้กาวเคมีบางชนิดหรือปูนที่สามารถอุดรอยแตกร้าวได้
และควรจะซ่อมก่อนหน้าฝน
2.เมื่อปิดหน้าต่างแล้วฝนยังสาดเข้ามาได้
สาเหตุส่วนใหญ่มาจากวงกบกับตัวบานหน้าต่างไม่ติดกัน
หรือหลอมไปจึงทำให้ฝนสาดเข้ามาได้ หรือหากรั่วเข้ามาตรงกระจกหน้าต่างตอนติดกับกรอบ
ก็เพราะติดกระจกผิดวิธี เฉพาะรอยรั่วตรงกระจกกับขอบนี้จะแก้ไขได้โดยใช้เคมีภัณฑ์สำหรับอุด
ซึ่งมีขายเป็นหลอดให้บีบลงไปแล้วหาไม้หรือโลหะแบนๆกดให้แน่นก็จะแก้ไขได้
สำหรับตัวบานหน้าต่างกับวงกบไม่พอดีกันก็จะแก้ไขได้โดยเสริมไม้ที่ขาดไปให้พอดีและอัดด้วยกาวชนิดกันน้ำที่จะแก้ไขได้
หรือจะเสริมวงกบตัวนอนให้ยื่นไปคลุมหัวหน้าต่างตอนบนก็จะกันได้เช่นเดียวกัน
3.ห้องน้ำซึม
ห้องน้ำที่เป็นกระเบื้องส่วนใหญ่เป็นเพราะปูนที่ยาแนวกระเบื้องหลุด
แก้ไขโดยใช้ปูนซีเมนต์ขาวยาใหม่ วิธีทำคือขูดตรงพื้นที่กะเทาะออกเอาปูนซีเมนต์ขาวผสมน้ำเล็กน้อยแล้วอัดลงไปใหม่ด้วยไม้หรือแผ่นโลหะแบนๆ
เมื่อแห้งแล้วจึงเอาฝอยขัดหม้อขัดเศษปูนซีเมนต์ขาวที่เลอะเทอะอยู่บนกระเบื้องออก
4.ก๊อกน้ำ
ก๊อกรั่วมีสาเหตุมาจากวงแหวนยางภายในชำรุด
ให้เปลี่ยนวงแหวนยางใหม่ แต่ถ้าก๊อกไม่ดีก็ต้องเปลี่ยนก๊อกใหม่
5.กระเบื้องห้องน้ำหลุด
กระเบื้องห้องน้ำหลุดให้ใช้กาวเคมีทาให้ทั่วแล้วทิ้งไว้ให้เกือบแห้งแล้วปะเข้าไปตามรอยเดิมเมื่อติดแน่นแล้วจึงค่อยหยอดกาวตามแนวโดยรอบอีกครั้ง
6.หลอดไฟไม่ติด
หลอดไฟไม่ติดเกิดจากหลายสาเหตุ
ซึ่งมีวิธีการซ่อมแตกต่างกันไป ซึ่งไม่มีกระแสไฟฟ้าเข้าหลอดแก้ไขโดยการตรวจจุดต่อในวงจรของหลอด
หรือขั้วสตาร์ตเตอร์หลวมหรือเสีย
แก้ไขโดยการยึดสกรูวของสตาร์ตเตอร์ให้แน่นหรือเปลี่ยนสตาร์ตเตอร์ใหม่
ส่วนกรณีหลอดหรือบาลาสต์เสื่อมหรือชำรุดแก้ไขโดยการซื้ออุปกรณ์ชิ้นนั้นมาเปลี่ยนใหม่
7.สายไฟหรือปลั๊กเตารีดชำรุด
สายไฟหรือปลั๊กเตารีดไฟฟ้าชำรุดเกิดจากหลายสาเหตุ
เช่น การเร่งความร้อนของเตารีดมากเกินไป ทำให้เตารีดร้อนมากจนเกิดไฟฟ้าลัดวงจรขึ้น
สามารถแก้ไขได้โดยการเปลี่ยนสายไฟใหม่
ในการซื้อสายไฟของเตารีดต้องแจ้งให้ผู้ขายทราบว่าเอาไปเปลี่ยนสายไฟเตารีด
ซึ่งเป็นสายเฉพาะที่สามารถรับไฟจำนวนมากได้
บทที่ 3
อุปกรณ์และวิธีดำเนินงาน
3.1 วิธีการดำเนินงาน
3.1.1
คิดหัวข้อโครงงานเพื่อนำเสนออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน
3.1.2
ศึกษาค้นคว้ารวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับโครงงาน
3.1.3
จัดทำโครงร่างโครงงานเสนออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน
3.1.4
ศึกษาข้อมูลเรื่องการบำรุงรักษาเครื่องมือช่างในบ้าน
3.1.5 จัดทำโครงงาน
3.1.6 สรุปรายงานโครงงานและจัดทำรูปเล่ม
3.2 วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล
3.2.1 ศึกษาข้อมูลจากหนังสือและอินเทอร์เน็ต
3.3 วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ
3.3.1 เครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อสืบค้นข้อมูล
3.3.2 หนังสือเรียนเพื่อศึกษาข้อมูล
บทที่ 4
ผลการดำเนินงาน
การจัดทำโครงงานเรื่อง
การบำรุงรักษาเครื่องมือช่างในบ้านมีวัตถุประสงค์คือ เพื่อศึกษาวิธีการบำรุงรักษาเครื่องมือช่างในบ้านและศึกษาเครื่องมือช่างในบ้าน
มีผลการดำเนินงานดังนี้
โครงงานเรื่อง การบำรุงรักษาเครื่องมือช่างในบ้าน
ผู้จัดทำได้ดำเนินงานตามขั้นตอนการดำเนินงานที่ได้วางแผนไว้และผู้ที่สนใจได้ศึกษาหาความรู้และทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องการบำรุงรักษาเครื่องช่างในบ้านได้ดียิ่งขึ้นและสามารถนำไปใช้ได้ถูกต้องตามวิธีการบำรุงรักษา
บทที่ 5
สรุปผลการดำเนินงาน
/ ข้อเสนอแนะ
5.1 การดำเนินงานจัดทำโครงงาน
5.1.1 วัตถุประสงค์ของโครงงาน
1.
เพื่อศึกษาวิธีการบำรุงรักษาเครื่องมือช่างในบ้าน
2. เพื่อศึกษาเครื่องมือช่างในบ้าน
5.1.2 วัสดุอุปกรณ์และเครื่องมือ
1.คอมพิวเตอร์
2.หนังสือ
5.2 สรุปผลการดำเนินโครงงาน
การดำเนินงานโครงงานนี้บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ได้กำหนดไว้คือ
ศึกษาวิธีการบำรุงรักษาเครื่องมือช่างในบ้านและศึกษาเครื่องมือช่างในบ้านจนเข้าใจ
จึงถือว่าเป็นประโยชน์ที่ทำให้ผู้ที่เข้าใจสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
5.3 ข้อเสนอแนะ
ควรมีการจัดทำเนื้อหาโครงงานให้หลากหลายและมีเนื้อหาออกมาหลายๆรูปแบบ